WN97-ตะกรุดสามสาวหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียว หลวงพ่อแช่ม วัดสำนักตะคร้อ 2556

หลวงพ่อแช่ม กิตฺติสาโร แห่งวัดสำนักตะคร้อ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นศิษย์เอกสายตรงของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ และเป็นศิษย์วิชาโบราณจากหลวงพ่อคง วัดถนนหักใหญ่ ได้สร้างชื่อเสียงในสายวิชาตะกรุดสายเหนียว คงกระพัน และเมตตามหาเสน่ห์อย่างโดดเด่นตั้งแต่เริ่มบวชเมื่อปี พ.ศ. 2509 ด้วยการศึกษาพุทธาคมอย่างเข้มข้นจากเกจิอาจารย์หลายท่าน ทำให้ท่านเป็นเจ้าคณะอำเภอเทพารักษ์และพระเกจิชื่อดังที่ประชาชนเคารพนับถืออย่างกว้างขวาง 

 

หนึ่งในวัตถุมงคลยอดนิยมของท่านคือ ตะกรุดสาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกัน หรือ ตะกรุดแก้ว ปัทมราช สร้างขึ้นปี พ.ศ. 2556 โดยใช้แผ่นโลหะธาตุขนาดประมาณ 5.2 × 1.0 ซม. อุดผงวิเศษจากผงมหาเมตตาอิทธิเจ และผงว่านมหาเสน่ห์ 108 รวมทั้งผงมหามงคล 108 และเทียนชัยมหาพุทธาภิเษกจากหลวงปู่ทองดำ อินทวังโส วัดถ้ำตระเพียนทอง ซึ่งหลวงพ่อแช่มรับหน้าที่ดับเทียนชัย พิธีปลุกเสกใหญ่ร่วมกับพระเกจิอาจารย์ชื่อดังถึง 8 รูป สร้างจำนวน 2,556 ดอก จึงได้รับการตอกโค้ดและหมายเลขกำกับเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ 

 

 

ตะกรุดสาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกัน หลวงพ่อแช่ม วัดสำนักตะคร้อ จังหวัดนครราชสีมา

หลวงพ่อแช่ม วัดสำนักตะคร้อ จังหวัดนครราชสีมา ท่านเป็นศิษย์เอกโดยตรงของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ อีกทั้งยังได้รับการถ่ายทอดสายวิชาโบราณจากหลวงพ่อคง วัดถนนหักใหญ่ ซึ่งถือเป็นต้นตำรับแห่งตะกรุดที่มีความพิสดารในอุปเท่ห์เล่ห์กล โดยเฉพาะในเรื่องเมตตามหาเสน่ห์และเมตตามหานิยมด้านความเป็นชายชาตรี

ตะกรุดนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “ตะกรุดแก้ว ปัทมราช” หรือในอีกชื่อหนึ่งที่นิยมเรียกกันคือ “ตะกรุดสาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกัน” โดยตำนานกล่าวไว้ว่า ชายหนุ่มจากหมู่บ้านหนึ่ง ได้นำตะกรุดนี้เสกกำกับด้วยพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ แล้วโยนลงไปในบ่อน้ำกลางระหว่างหมู่บ้าน ทั้งนี้เพื่อให้สามสาวจากสามหมู่บ้านที่มาตักน้ำจากบ่อเดียวกันนั้น ไม่สามารถมาพบกันได้เลย แม้ต่างคนจะรู้จักกัน แต่กลับไม่เคยได้เจอหน้ากันแม้สักครั้ง ด้วยอานุภาพของตะกรุดนี้ที่สร้างความแคล้วคลาดระหว่างกันอย่างน่าอัศจรรย์ ส่งผลให้ชายหนุ่มสามารถครองรักอยู่ร่วมกับทั้งสามสาวได้โดยที่ไม่มีใครล่วงรู้

ความพิสดารของตะกรุดนี้ยังมีเพิ่มเติม ด้วยการนำพระคาถาแก้วมณีทั้ง 4 มาใช้ในการภาวนา ซึ่งสามารถภาวนาได้ถึง 108 จบ และมีอานุภาพไม่รู้จบสิ้น ทั้งในด้านพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ โดยใช้ในการเจริญวิปัสสนาญาณวิถี จนมีคำกล่าวอุปเท่ห์ที่เป็นคติเตือนใจว่า

“หกสองหกยกสองตัว คูรแก้วเหนือหัว คำเดิมอย่าเสีย ผู้ใดคิดได้ บ่ห่อนจะได้เมีย ผู้ใดคิดเสีย บ่มิเป็นแก่นสาร ผู้ใดคิดสบ จะได้พบพระศรีอาริยเมตตรัย ผู้ใดคิดกราน บ่มิพานพบประสบเลย”

นอกจากนี้ ยังมีคาถาย่อสั้นที่ใช้เสกกำกับอานุภาพไว้ดังนี้:

“นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ
นะมะอะอุ อุอะมะนะ อุนะนะอุ อุมะมะอุ
อุอะอะอุ พุทธะสังมิ มะอะอุ อิสวาสุ”

วิธีการเรียกสูตรจะต้องเริ่มจากการลงพระอักขระหัวใจพระคาถา ลงในองค์ยันต์ตารางกลลีลา จากนั้นจึงล้อมรอบด้วยพระคาถาเพื่อสร้างเกราะกำบังอย่างแน่นหนา โดยมีการผสมลูกเล่นในรูปแบบอักขระขอมโบราณที่ต้องรักษาไว้ดั่งเกราะเพชรเกร็ดแก้ว ภูษิตฟ้าอาภรณ์สวรรค์ ซึ่งยังคงอานุภาพปกป้องคุ้มครองแก่ผู้ครอบครอง ให้ปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง อีกทั้งยังส่งเสริมให้เกิดเมตตามหานิยม สง่างามท่ามกลางผู้คน

ตะกรุดนี้ลงบนแผ่นโลหะธาตุวิเศษ ขนาดสองนิ้วคูณหนึ่งนิ้ว อุดด้วยผงวิเศษมหาเมตตา อิทธิเจ ผงว่านมหาเสน่ห์ 108 และผงมหามงคล 108 พร้อมทั้งผสมด้วยเทียนชัยมหาพุทธาภิเษกของหลวงปู่ทองดำ อินทวังโส วัดถ้ำตระเพียนทอง โดยในพิธีปลุกเสกนั้น หลวงพ่อแช่มเป็นองค์ดับเทียนชัย พร้อมมีพระเกจิชื่อดังนั่งปรกอธิษฐานจิตอีก 8 รูป มีการจัดสร้างทั้งหมดจำนวน 2,556 ดอก และทุกดอกได้ตอกโค้ดและหมายเลขกำกับอย่างครบถ้วน

อานุภาพของตะกรุดนี้ คือการใช้เสกกำกับด้วยพระคาถาเดียวกันทั้งหมด แต่ให้ผู้ครอบครองตั้งจิตอธิษฐานในสิ่งที่ตนต้องการ ด้วยความมุ่งมั่นและศรัทธา โดยเฉพาะในด้านการประกอบกิจการให้มั่นคง ดำรงฐานะให้เป็นปึกแผ่น ทั้งนี้ต้องระลึกถึงคุณแห่งพระรัตนตรัย อุปัชฌาย์ อาจารย์ บิดา มารดา รวมถึงเทพเทวดา อินทราธิราช และพรหมาสตร์ผู้ทรงอิทธิคุณ เพื่อให้ประสิทธิประสาทอำนวยพรชัยให้ประสบผลสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา

ดั่งแก้วมณีธาตุทั้ง 4 หรือแก้วสารพัดนึก ตะกรุดนี้จะสัมฤทธิ์ผลตามอำนาจบุญบารมีของผู้ใช้ เพียงตั้งจิตหวังในสิ่งที่สมควร และประพฤติดีตามครรลองแห่งธรรม ย่อมสมดังปรารถนาในทุกประการ